คำบอกเล่าของผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ระบุว่าช่วงที่เรือเฟอร์รี่ “เซวอล” กำลังอยู่ในสภาพไร้หลักหลังจากอับปางลง ปาร์ค จี-ยองได้ทำหน้าที่ลูกเรือโดยเธอพยายามช่วยเหลือผู้โดยสารอย่างสุดความสามารถโดยที่ตัวเองไม่ได้สวมชูชีพแม้ว่าน้ำจะเริ่มทะลักเข้าตัวเรือมากแล้วก็ตาม
ปาร์ค จี-ยองกล่าวคำพูดที่ทำให้หลายคนถึงกับต้องขนลุกว่า “ลูกเรือควรเป็นคนสุดท้ายที่ได้รับเสื้อชูชีพ” นั่นแสดงให้เห็นถึงจิตใจแห่งความเสียสละที่เธอมี แต่แล้วเรื่องที่น่าเศร้าก็เกิดขึ้นจนได้เมื่อเวลาผ่านไปหลายชั่วโมงเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้นำร่างอันไร้วิญญาณของปาร์ค จี-ยองออกมาจากเรือ
วีรกรรมการเสียสละตนเองในครั้งนี้ของปาร์ค จี-ยองทำให้ผู้คนที่อยู่ร่วมเหตุการณ์และผู้ที่ได้รับรู้ถึงกับเศร้าพร้อมกับชื่นชมในสิ่งที่เธอทำ แตกต่างจากปฏิกิริยาที่มีต่อกัปตันเรือที่เอาแต่หาทางหนีเพื่อเอาชีวิตรอดโดยไม่สนใจชะตากรรมของผู้โดยสารที่ฝากชีวิตไว้กับเขา
แม้ปาร์ค จี-ยังจะเป็นเพียงลูกเรือธรรมดาๆ ฐานะทางบ้านก็ไม่ได้ร่ำรวยซึ่งเป็นเหตุผลที่ผลักดันให้เธอต้องมาทำงานบนเรือ แต่เธอกลับมีจิตใจที่ยิ่งใหญ่และสมควรแก่การยกย่อง พิธีศพของเธอถูกจัดขึ้นในเมืองอินชอนโดยชาวเกาหลีใต้จำนวนมากได้ส่งดอกไม้และพวงหรีดไปร่วมไว้อาลัย รวมทั้งผู้ที่รอดชีวิตจากการช่วยเหลือของเธอก็ได้บอกว่าเขาเป็นหนี้บุญคุณของปาร์ค จี-ยัง